Guido of Arezzo หรือ Guido Aretinus หรือ Guido da Arezzo หรือ Guido Monaco หรือ Guido d'Arezzo พระสงฆ์นิกายหนึ่งและนักทฤษฎีดนตรีชาวฝรั่งเศสในสมัยกลาง เขาได้เดินทางไปสู่เมือง Arezzo ประเทศอิตาลีเพื่อรับตำแหน่งหัวหน้าบาทหลวงในปี 1025 ในช่วงเวลาที่เขาอาศัยอยู่ในประเทศอิตาลีนั้นเขาได้ศึกษาพัฒนารูปแบบใหม่ในการใช้สัญลักษณ์แทนความหมายทางดนตรี โดยระบบใหม่ที่มาใช้แทนที่ประกอบด้วยตัวอักษรแล้วตัวโน้ตและเขียนลงบนเส้นขนาน 4 เส้นและยังได้เพิ่มเส้นสีเหลืองและแดงอย่างละหนึ่งเส้นในบรรทัด2เส้น (tow-line Staff)
เขาได้แนะนำระบบ Solmization หรือที่ชาวยุโรปและอเมริกาตอนเหนือเรียกกันว่า"Solfeege " หรือ "Aretinian syllables "การออกเสียง Ut, Re, Mi, Fa, Sol และ La ซึ่งการออกเสียงนี้ใช้ชื่อของตัวโน้ต 6 ตัวคือ C, D, E, F, G และ A รวมถึง
Hexachord (กลุ่มของโน้ต 6 ตัว) หลังจากนั้นก็กลายมาเป็น
Octave Scale ( กลุ่มของโน้ต 8 ตัว เช่น C, D, E, F, G, A, B และ C ) แทนที่ Hexachord ซึ่งได้เพิ่มพยางค์การออกเสียง คือ Ti หรือ Si และในที่สุด Do ได้ถูกนำมาใช้แทนที่ Ut งานเกี่ยวกับทฤษฎีดนตรี ได้แก่ Micrologus de disciplina artis musicae (c. 1025) ได้อธิเกี่ยวกับดนตรีในช่วงเวลาของเขา และสิงที่สำคัญคือ ที่มาของ organum (เพลงร้องที่ถูกพัฒนาในยุคกลาง)
Guido เขาไม่ใช่นักประพันธ์แต่สิ่งที่เขาเขียนและได้ตีพิมพ์ออกมาในช่วงแรกนั้นเกี่ยวกับทฤษฎีดนตรีที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก ซึ่งความสำเร็จของเขาทำให้เขาได้รับการบันทึกผลงานของเขาไว้เป็นต้นฉบับ ก่อนหน้าที่เขาได้ประดิษฐ์การบันทึกโน้ตของเขานักร้องส่วนใหญ่ใช้การท่องจำเนื้อของบทสวดทั้งหมด และต้องสอนบทสวดให้กับนักร้องรุ่นหลังๆ แต่เมื่อใช้การท่องจำ เมื่อจำบทสวดผิดพลาด สอนต่อผิดพลาด เพลงสวดก็จะบิดเบือนเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งการบันทึกโน้ตหรือสัญลักษณ์ทางดนตรีของเขานั้นทำให้เพลง หรือ บทสวดถูกต้องและไม่เปลี่ยนแปลง
กำเนิดการออกเสียงของ Guido’s syllables ได้แก่ Ut , Re , Mi , Fa , Sol และ La มากจาก 6 พยางค์แรกของบทสวดสรรเสริญแก่ St. John the Baptist คือ
Ut queant laxis,
Resonare fibris,
Mira gestorum,
Famuli tuorum,
Solve polluti,
Labii reatum, Sancte Joannes!
Resonare fibris,
Mira gestorum,
Famuli tuorum,
Solve polluti,
Labii reatum, Sancte Joannes!
ในบทสวดนี้ประโยคแรกได้เริ่มด้วยตัว C และประโยคต่อมาได้ใช้บันไดเสียงที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆจากประโยคก่อนหน้า นักร้องชาวฝรั่งเศษยังคงใช้ Ut แต่ในประเทศอื่นๆนิยมใช้สัญลักษณ์ Do มาแทนที่ การใช้ Guido’s system นั่นทำให้เขาสามารถสอนนักร้องของเขาได้ง่ายขึ้นและนักร้องสามารถเรียนบทเพลงสวดบทใหม่ได้รวดเร็วมากขึ้น
“Guidonian Hand”
เป็นเครื่องมือในการสอนที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเครื่องหมายที่ระบุในแต่ละนิ้วจะมีโน้ตที่แตกต่างกันไป ในการสอนให้แก่นักร้องนั้นก็จะใช้นิ้วที่แตกต่างกันในแต่ละบทเพลง
ในปี 1028 Guidoได้แสดงวิธีการสอนโดยใช้ “Guidonian Hand” แด่พระสันตะปาปาที่19
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น